พูดถึงปฏิทินเเล้ว ภาพที่เเว๊บเข้ามาในหัวของหลาย ๆ คน คงให้ภาพที่เเตกต่างกันออกไป บางคนเป็นภาพตัวเลขเป็นสิบอัดอยู่ในตาราง บางคนเป็นภาพตัวหนังสือจีนทาบทับบนกระดาษขาวพร้อมตัวเลขอารบิกสักตัว หรือเเม้เเต่ภาพกากบาทตัวเลขบนโต๊ะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นภาพใดทุกคนล้วนมีวันที่วันเดียวกัน นั่นเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ภาคไหนหรือจังหวัดใดของประเทศไทยวันที่ของเราทุกคนคือวันเดียวกันและเหมือนกันนั่นเอง ทว่าจะมีสักกี่คนอธิบายหรือเข้าใจตัวเลขทั้งหมดที่อยู่หนึ่งของปฏิทิน วันนี้แอดเลยถือโอกาสพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับปฏิทินเเบบจันทรคติและสุริยคติ
ปฏิทินสุริยคติ คืออะไร
ปฏิทินสุริยคติ เป็นการนับวันโดยยึดการโคจรของดวงอาทิตย์เป็นหลัก ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ใช้การนับเวลาแบบสุริยคติเป็นมาตรฐานในการนับเวลา ประเทศไทยเองได้เปลี่ยนจากใช้ปฏิทินจันทรคติไทยเดิมมาเป็นสุริยคติเมื่อ พ.ศ. 2431 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยปกติเเล้วปฏิทินไทยแสดงปีปฏิทินสุริยคติไทยเป็นหลักแสดงในรูปแบบปีพุทธศักราช นอกจากนี้ในหลายปฏินมักมีการแสดงวันพระ วันข้างขึ้น ข้างแรม ปีจีน และคริสต์ศักราชควบคู่กันไป
ปฏิทินจันทรคติ คืออะไร
ปฏิทินจันทรคติ เป็นการนับวันตามการโคจรของดวงจันทร์ โดยอาศัยการดูปรากฎการณ์ข้างขึ้น-ข้างแรม สำหรับปฎิทินจันทรคติของไทยนั้นมีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้
รูปแบบของปฏิทินจันทรคติไทย
- ปฏิทินจันทรคติราชการหรือปฏิทินหลวง
เป็นรูปแบบปฏิทินที่ใช้กันมาแต่ดั้งเดิม อาศัยการกำหนดรูปแบบปีทางจันทรคติ แต่ยังไม่มีการสรุปสูตรอย่างตายตัวหรือแน่ชัด ใช้เป็นปฏิทินจันทรคติราชการทั่วไป ตลอดจนพระสงฆ์ไทยคณะมหานิกาย
- ปฏิทินจันทรคติปักขคณนา
รัชกาลที่ 4 เป็นผู้ประดิษฐ์ปฏิทินรูปแบบนี้ขึ้น ซึ่งมีสูตรคำนวณที่แน่ชัดและมีความแม่นยำตามธรรมชาติกว่าแบบราชการ จึงได้นำมาใช้ในพระสงฆ์ไทยคณะธรรมยุตินิกาย
การนับช่วงเวลาของปฏิทินจันทรคติ
การนับช่วงเวลาในปฏิทินจันทรคติไทย นับตามลักษณะการเปลี่ยนแปลงของดวงจันทร์ ดังนี้
- คืนเดือนดับ จะสังเกตไม่เห็นดวงจันทร์
- คืนเดือนเพ็ญ จะสังเกตเห็นดวงจันทร์สว่างเต็มดวงมากที่สุดในรอบเดือนจันทรคติ
- คืนข้างขึ้น จะสังเกตเห็นดวงจันทร์เป็นรูปเสี้ยว นิดเดียวแล้วค่อยๆ โตขึ้นในแต่ละวันจนเต็มดวง
- คืนข้างแรม จะสังเกตเห็นดวงจันทร์ค่อย ๆ แหว่งเป็นรูปเสี้ยวเล็กลง ๆ จนในที่สุดดวงจันทร์ก็มืดทั้งดวง
- ปีนักษัตริย์ ในปฏิทินจันทรคติ มีการระบุปีนักษัตรไว้ด้วย โดยเริ่มนับจากปีชวดหรือปีหนูเป็นปีเเรก และปีสุดท้ายคือปีกุนหรือปีหมูนั่นเอง
การอ่านวันตามแบบปฏิทินจันทรคติ
การอ่านวันที่ตามแบบจันทรคตินั้น กำหนดให้สัญลักษณ์ ดังนี้
- เลขด้านซ้ายมือเครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) หมายถึง วันในหนึ่งสัปดาห์ (นับวันอาทิตย์เป็นวันที่ 1 ไปจนถึงวันเสาร์เป็นวันที่ 7 )
- ตัวเลขด้านบน-ล่างเครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) หมายถึง ข้างขึ้นเเละข้างแรม
- ส่วนตัวเลขด้านขวามือเครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) หมายถึง เดือนในหนึ่งปี (เดือนอ้าย – เดือนสิบสอง )
ปฏิทินสุริยคติและจันทรคติต่างกันอย่างไร
ตัวอย่างการอ่านปฏิทินทั้ง 2 แบบ
จากภาพปฏิทินด้านล่างแสดงทั้งแบบจันทรคติและสุริยคติ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นการอ่านแบบสุริยคตินั้น ตรงกับวันแรม 14 ค่ำเดือน 9 ปีชวดแบบจันทรคติ บางท่านอาจสับสนว่าเหตุใดจึงไม่ใช่เดือน 8 เช่นเดียวกัน นั่นเป็นเพราะว่าแบบจันทรคติเริ่มนับวันแรกของเดือนตั้งเเต่เดือนก่อนหน้า ไม่ใช่นับวันขึ้น 1 ค่ำในวันที่ 1 ของเดือนกันยายนแต่อย่างใด ที่สำคัญหากสังเกตุจะเห็นว่าวันที่ 18 นั้นเป็นวันสุดท้ายของเดือนด้วย เพราะตามกฎเเล้ว เดือนคี่จะมีแค่วันเเรม 14 ค่ำเท่านั้น ในวันพรุงนี้เมื่อท่านทั้งหลายตื่นขึ้นมาก็จะเข้าเดือนสิบตามปฏิทินจันทรคตินั่นเอง
ความสำคัญของปฏิทินทั้ง 2 แบบ
แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าปฏิทิน อย่างไรเสียก็มีประโยชน์ในการช่วยบอกวันเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ นัดหมายสำคัญให้กับเราทุกคน นั่นคือหน้าที่ของปฏิทินอยู่เเล้ว เเต่นอกจากในเรื่องของวันสำคัญเเล้วปฏิทินแบบจันทรคติก็ยังบอกเราได้ด้วยว่าวันใดเป็นวันพระหรือวันสำคัญทางศาสนา รวมถึงช่วนในการคำนวณวันตามหลักโหราศาสตร์ เพื่อหาวันมงคลในการจัดทำงานสำคัญ ๆ เช่น วันขึ้นบ้านใหม่ วันเเต่งงาน เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ก็จะช่วยซัพพอร์ตให้งานออกมาได้อย่างราบรื่น
ปฏิทินวันธงชัย 2563
ตามปกติแล้วหากใครคิดจะจัดงานมงคล เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้เเต่วันออกรถคันใหม่ ก็มักจะให้หมอบ้านหรืออาจารย์ผู้มีความรู้หาฤกษ์มงคลให้ โดยการคำนวณวันตามหลักโหราศาสตร์ เพื่อให้เป็นสิริมงคลต่อชีวิตและทรัพย์สิน
สรุป
สำหรับความรู้เรื่องปฏิทินจันทรคติและสุริยคตินั่น ทุกคนล่วนได้ร่ำเรียนกันมาตั้งเเต่สมัยประถมศึกษาแล้วด้วยซ้ำ โดยสามารถแบ่งการอ่านปฏิทินได้ 2 เเบบ คือ 1. การอ่านปฎิทินจันทรคติ เป็นการนับวันเวลาตามลักษณะการเปลี่ยนแปลงของดวงจันทร์ ต่อการหมุนรอบโลกใน 1 ปี จะนับวันตามข้างขึ้น-ข้างเเรม ส่วนปฏิทินที่เราใช้กันเป็นส่วนใหญ่นั้น เรียกว่า ปฏิทินสุริยคติ บอกวันในหนึ่งสัปดาห์คือจันทร์ถึงศุกร์ เดือนทั้ง 12 และปีต่าง ๆ นั่นเอง